a day: number 168: Retail Interactive Experience

Global Review: Advertising ตอน Digital Showroom เทรนด์ใหม่โฆษณาในห้าง By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 August 2014 ทุกวันนี้ พอชวนกันไปเดินห้าง เรามักนึกถึงการหลบร้อนไปพึ่งแอร์เย็นฉ่ำ แถมได้เพลิดเพลินดูผู้คนและช้อปสินค้ามากมายที่วางขายอยู่เรียงราย แต่ในอนาคตอันใกล้ เวลาใครมาชวนเราเดินห้าง เราอาจจะรีบตอบรับเพื่อได้ไปสัมผัสกับงานโฆษณายุคใหม่ที่อยู่ในห้าง และไม่ใช่ว่าต้องรอถึงอนาคตอันใกล้เท่านั้นนะครับ เพราะปัจจุบันนี้เอง สินค้าและบริการหลายๆ อย่างก็เริ่มมอบประสบการณ์ใหม่ในการเดินห้างให้กับผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด Retail Interactive Experiences ส่วนหัวหอกที่กำลังทำให้แนวคิดนี้ได้รับการนำไปปฏิบัติอย่างแพร่หลายทั่วโลก ก็ต้องยกให้กับ Cinder เจ้ากล่องเครื่องมือดิจิตอลซึ่งได้รับการคิดค้นขึ้นโดย Barbarian Group ดิจิตอลเอเจนซี่ชั้นนำแห่งสหรัฐอเมริกา และเปิดให้โปรแกรมเมอร์ทั่วไปดาวน์โหลดไปใช้ได้ฟรี จะเอาสูตรสำเร็จที่มีอยู่แล้วไปใช้งานเลย หรือจะเขียนโค้ดต่อยอดเพื่อใช้งานเฉพาะด้านก็ทำได้ Cinder ช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถนำภาพ เสียง มาเข้ารหัสแล้วมอบประสบการณ์โต้ตอบกับผู้บริโภคแบบ Real Time เกิดเป็นแอพฯ เล็กๆ ทำงานผ่านหน้าจอแบบสัมผัสตั้งแต่หน้าจอเล็กๆ อย่าง iPhone และ iPad ไปจนถึงแอพฯ ใหญ่ๆ ทำงานร่วมกับหน้าจอ LED ขนาดยักษ์ที่ถูกติดตั้งให้คนเหยียบเล่นกับภาพเคลื่อนไหวไปมาบนพื้น อย่างในงาน Audi Urban Future ที่ไมอามี่ หรือจะแขวนผนังให้คนสัมผัสเล่นได้เหมือนในหนัง Minority Report โดยติดตั้งอยู่ที่ออฟฟิศบริษัทโพสต์โปรดักชั่นหนังโฆษณา The Mill ที่นิวยอร์ค หรือจะใช้เป็นเป็นแบคกราวด์สร้างภาพเคลื่อนไหวที่ทำปฏิกิริยาโต้ตอบกับคลื่นเสียงโดยรอบ เหมือนที่ Peter Gabriel ใช้ในงาน World Tour Concert ของเขาก็ทำได้ ด้วยคุณสมบัติที่ใช้งานได้กว้างขวางหลากหลายรูปแบบ และคุณประโยชน์ที่มีมหาศาลต่อวงการโฆษณาและการออกแบบ ทำให้ Cinder คว้ารางวัลกรังด์ปรีซ์ในสาขา Innovation Lions สาขารางวัลใหม่ของเวที Cannes International Festival of... Read The Rest →

a day: number 167: Future Lions

Global Review: Advertising ตอน Future Lions สิงโตน้อยนักศึกษา By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 July 2014 พอเทศกาล Cannes International Festival of Creativity มาถึงแต่ละที เรามักให้ความสนใจกับการติดตามผลงานโฆษณาของครีเอทีฟไทยว่าเอเจนซี่ไหนจะได้รางวัลอะไร โปรดักเฮาส์ไหนจะสร้างชื่อให้กับวงการโฆษณาไทยในเวทีระดับโลกนี้บ้าง แต่จะว่าไปแล้ว เทศกาลคานส์มีอะไรดีๆ ให้ติดตามดูมากกว่าที่คิด นอกจากการมอบรางวัลสิงโตสีต่างๆ ให้กับครีเอทีฟมือโปรแล้ว คานส์ยังมีการจัดเวิร์คชอป Young Lions โดยให้ตัวแทนคานส์ในแต่ละประเทศคัดสรรครีเอทีฟรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 28 ปี ส่งมาเข้าร่วมแข่งขันสร้างสรรค์ผลงานกันในช่วงเทศกาล หมวดหมู่ของการแข่งขันก็มีหลากหลายไม่แพ้รุ่นใหญ่ ครอบคลุม Print, PR, Media, Cyber, Design, Film ไปจนถึง Young Marketers นู่นเลย และในปีนี้ตัวแทนครีเอทีฟรุ่นใหม่ของไทย 2 คน ก็ได้รับเลือกโดยสมาคมผู้กำกับศิลป์บางกอกให้บินไปร่วมแข่งขันในหมวด Young Film Lions ด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น เวทีคานส์ยังมีการจัดการแข่งขันในระดับนิสิตนักศึกษา แต่ไม่ได้จัดโดยคานส์ หากแต่มีดิจิตอลเอเจนซี่ชั้นนำของโลก AKQA เป็นเจ้าภาพ โดย AKQA ถือได้ว่าเป็นดิจิตอลเอเจนซี่มากฝีมือ ผลิตงานออนไลน์ชั้นยอดกวาดรางวัลคานส์มามากมาย โดยการแข่งขันระดับนักศึกษาที่คานส์นี้ AKQA ตั้งชื่อไว้โก้เก๋ว่า Future Lions และได้ดำเนินการแข่งขันมาถึงปีที่ 9 จากเดิมที่มีนักศึกษาส่งผลงานเข้าแข่งขันไม่กี่ราย ก็เพิ่มขึ้นเป็น 1,760 รายจาก 40 ประเทศในปีนี้ ที่น่าสนใจคือการตั้งโจทย์สำหรับ Future Lions ในแต่ละปีจะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คือกำหนดให้นักศึกษาจากทั่วโลกนำเสนอไอเดียที่ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ทำให้เป็นจริงได้ในวันนี้ จากนั้นให้นำไอเดียนั้นมาสร้างสรรค์ผลงานโฆษณาให้กับแบรนด์ระดับโลก พร้อมทั้งส่งคลิปวิดีโอสั้นๆ อธิบายไอเดียดังกล่าวเข้ามาที่คานส์ ฟรี!... Read The Rest →

a day: number 166: Happy Viral

Global Review: Advertising ตอน Happy Viral เมื่อความสุขแพร่ระบาด By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 June 2014 วันก่อน ระหว่างที่ผมซอกแซกอัพเดทงานโฆษณาโลก ก็ต้องมาสะดุดใจกับโปรเจ็คท์ Sound Session ของ Sprint ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของอเมริกา ที่นำเอา Pharrell Williams มาร้องเพลง Happy ใน Webster Hall นิวยอร์ค แล้วเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือในมือคนดูให้กลายเป็นลำโพงสำหรับเพลงที่ Pharrell ร้องเพื่อโชว์ศักยภาพความเร็วระบบเชื่อมต่อไร้สายของ Sprint ที่สะดุดใจเพราะจำได้ว่าเพลง Happy นี่ออกมานานแล้ว ทำไมยังเป็นเพลงพระเอกที่ Sprint เลือกมาใช้โปรโมตเทศกาลดนตรีสำคัญที่เพิ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เอ๊ะ! หรือว่าเพลงนี้ยังฮิตไม่เลิก ผมเลยลองคลิกเข้าไปดูในยูทูบ กะจะเช็คยอดไลค์มิวสิควิดีโอเพลงนี้ ที่ไหนได้ กลับต้องอึ้งกับหลากหลายคลิปที่แฟนเพลงทั่วโลกทำออกมาภายใต้ชื่อ “Pharrell Williams – Happy – We are from (ชื่อเมือง)” โดยแต่ละเมืองจะมีแฟนเพลงถ่ายทำคลิปผู้คนเดินเต้นรำเข้าหากล้อง แสดงออกถึงความสุขของผู้คนในเมืองนั้นประกอบเพลง Happy ตามแบบมิวสิควิดีโอตัวแม่ที่ Pharrell ปล่อยออกมาพร้อมกับซิงเกิ้ลเพลงนี้เมื่อปลายปีที่แล้ว แถมหลายๆ เมืองไม่ได้ถ่ายกันเล่นๆ นะครับ ถ่ายกันแบบเอาตายโดยโปรดักชั่นเฮาส์ชั้นนำด้วยซ้ำไป ฮิตทำคลิปจัดจนถึงขนาดมีผู้รวบรวมคลิปเพลงนี้ที่ทำโดยคนดูทางบ้านไว้ใน wearehappyfrom.com กันเลยทีเดียว ซึ่งนับถึงขนาดนี้มี 1,950 คลิปจาก 153 ประเทศทั่วโลก ซึ่งความดีความชอบของการเป็นกระแสไวรัลฮิต นอกจากคุณงามความดีของบทเพลงเองแล้ว คงต้องยกให้กับมิวสิควิดีโอตัวแม่ที่กล่าวถึงข้างต้นแหละครับ เพราะมีวิธีการนำเสนอที่แปลกแหวกแนว โดยเป็นมิวสิควิดีโอตัวแรกที่มีความยาว 24 ชั่วโมง ทำให้มิวสิควิดีโอเพลงนี้กลายร่างเป็นสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ชั้นดี ที่ทำให้ผู้คนแชร์กันบนโลกออนไลน์และมีประเด็นสดใหม่ให้นักข่าวอยากนำไปเขียนถึง ทั้งยังเป็น Template ชั้นดี ที่คนดูทางบ้านลอกเลียนได้ง่ายจนกลายเป็นคลิปทำตามที่ฮิตที่สุดประจำปีนี้ไม่แพ้กระแส Harlem Shake เมื่อต้นปี 2013... Read The Rest →

a day: number 165: The Brief The Brief The Brief

Global Review: Advertising ตอน บรีฟนั้นสำคัญไฉน By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 May 2014 เคยได้ยินคำกล่าวนี้ไหมครับ “ไม่มีคำตอบที่ดีมาจากคำถามที่แย่” นี่แหละครับ เรื่องเดียวกันกับ “บรีฟ” ในวงการโฆษณา และเป็นเรื่องเดียวกันกับที่เล่าขานว่า ครีเอทีฟเก่งๆ มักชอบล้มบรีฟงานโฆษณาที่เออีหรือแพลนเนอร์เขียน หรือพอไปเจอผู้กำกับหนังโฆษณาที่เก่งกว่า ผู้กำกับฯ ก็มักจะล้มสตอรี่บอร์ดที่ทางทีมครีเอทีฟคิดมา ทั้งที่เอเจนซี่โฆษณาต้องเพียรพยายามหลายรอบกว่าจะขายงานลูกค้าผ่าน จนได้มาบรีฟสตอรี่บอร์ดกับทางผู้กำกับฯ ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่วงการโฆษณาเมืองไทยผงาดบนเวทีโลกมาถึงทุกวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะเรายึดถือกันว่า ไม่มีงานครีเอทีฟที่ดี ออกมาจากบรีฟที่แย่ คำถามที่ดีในเชิงการตลาดและการสื่อสารจะถูกรวบยอดบรรจุไว้ในบรีฟที่ดี เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมตรงคำถาม และถ้าครีเอทีฟรวมไปถึงผู้ได้รับมอบหมายงานต่อจากครีเอทีฟได้อ่านบรีฟแย่ๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เค้าอยากจะแก้ไข เพราะรู้ดีว่า ถ้าขืนทำตามบรีฟที่ให้มา ก็ไม่มีทางได้ผลงานที่ดี แล้วทำอย่างไร เราจึงจะเขียนบรีฟที่ดี ให้คนที่ต้องทำงานต่อจากเราทำงานง่าย สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ “ตรงโจทย์” คำตอบคือ บรีฟที่ดีนั้นต้องเขียนโดยคนที่มีประสบการณ์ ยิ่งไปกว่านั้น คนเขียนต้องมี Vision เพราะ “บรีฟ” ในวงการนี้มีแค่ 2 แบบ แบบแรกจะเป็นแบบ Limit ปิดกั้นจินตนาการ ถูกออกแบบมาให้ทำตามสั่ง ทำผลงานโฆษณาให้ออกมาตรงตามที่เขียนกำหนดไว้ในบรีฟเป็นใช้ได้ กับ “บรีฟ” แบบที่สอง คือบรีฟที่สร้างแรงบันดาลใจ เขียนแบบมี Inspiration กระตุกต่อมคนทำงานสร้างสรรค์ให้สามารถต่อยอดความคิดไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้แทบจะทันที เมื่อเร็วๆ นี้ ทางออฟฟิศเวลล์ดัน ได้มีโอกาสทำงานสร้างแบรนด์ให้กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อระดมเงินบริจาคมาใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย ทางทีมงานเสนอลูกค้าให้ทำเพลงและมิวสิควิดีโอเน้นเนื้อหาตามสโลแกน “คำว่าให้…ไม่สิ้นสุด” เพื่อให้นำไปใช้งานได้นานๆ ซึ่งลูกค้าเห็นชอบ จากนั้นก็ได้พี่แอ๊ด คาราบาว กรุณามาช่วยประพันธ์เนื้อร้องและทำนอง ได้คุณปาน ธนพร มาช่วยขับร้อง เกิดผลงานเพลงและมิวสิควิดีโอ “การให้…ไม่สิ้นสุด” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนเมษายน ซึ่งแน่นอนว่าก่อนหน้าที่จะเกิดบทเพลงนี้ขึ้นมา ก็ต้องเกิดการบรีฟแนวทางเพลงกับผู้ประพันธ์เพลงเสียก่อน และเนื้อหาข้างล่างต่อไปนี้คือบรีฟยาวๆ จากทางเราถึงทางพี่แอ๊ด… ทำไม “การให้…ไม่สิ้นสุด” ก็เพราะ… ตราบแผ่นดินไม่สิ้นคนทุกข์ยาก... Read The Rest →

a day: number 164: Got Milk? is still healthy

Global Review: Advertising ตอน Got Milk? ยังไม่ตาย By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 April 2014 เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วเมื่อ The Milk Processor Education Program (MilkPEP) ซึ่งทำหน้าที่รณรงค์ให้คนอเมริกันดื่มนม ตัดสินใจยกเลิกแคมเปญ Got Milk? ทั้งที่ Got Milk? ถือกำเนิดมาอย่างยาวนานจนครบรอบ 20 ปีไปเมื่อปีที่ผ่านมา ก็ไม่รู้คิดผิดหรือคิดถูกกันแน่ เพราะจากการวิจัย คำว่า Got Milk? เป็นสโลแกนที่คนนึกถึงเป็นอันดับหนึ่ง เหนือกว่าน้ำอัดลม เบียร์ เครื่องดื่มเกลือแร่ ทั้งที่ไม่ได้ใช้เงินทุ่มตลาดโครมๆ เหมือนแบรนด์ดังๆ เหล่านั้น แถมอเมริกันชนเองก็มีความผูกพันกับแคมเปญนี้เป็นอย่างมาก จนนำไปล้อเลียนแปลงความหมายกันทั่วบ้านทั่วเมือง เช่น Got Jesus? แต่ทาง MilkPEP และเอเจนซี่โฆษณา Lowe Campbell Ewald นิวยอร์ค แก้ต่างว่า ตอนนี้สถานการณ์การตลาดเปลี่ยนไปแล้ว กระแสบริโภคโปรตีนกำลังมาแรง ก็เลยออกแคมเปญโฆษณาใหม่ภายใต้สโลแกนใหม่ Milk Life โดยในหนังโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ และเว็บไซต์ จะแสดงให้เห็นชัดๆ ว่าการดื่มนมให้โปรตีนแก่ร่างกายมากแค่ไหน คือขอเลี้ยวกลับมาเน้นข้อมูลทางโภชนาการ ขายนมกันแบบตรงไปตรงมา มากกว่าจะเน้นเรื่องราวสร้างความผูกพันทางด้านอารมณ์กับคนดูเหมือน Got Milk? ทำเอาแฟนๆ ใจหายกันใหญ่ ก็แหม! สโลแกนที่แข็งแรงและติดหูระดับเดียวกับ Just Do It นี่ ไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ นี่ครับ และยังเป็น Big Idea ต้นทางงานโฆษณาระดับขึ้นหิ้งมากมาย เช่น หนังโฆษณาเปิดตัวแคมเปญเรื่อง Aaron Burr เล่าเรื่องของชายคนหนึ่งที่กำลังกินขนมปังทาเนยและฟังวิทยุไปด้วย... Read The Rest →

« Older Entries Newer Entries »

Back to top