a day: number 190: America You Can Drink
Global Review: Advertising ตอน อเมริกาที่คุณดื่มได้ By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 June 2016 หลังจากที่บ้านเราเข้มงวดกวดขันโฆษณาเหล้าเบียร์ด้วยมุมมองว่าเป็นสินค้าบาป โอกาสของครีเอทีฟไทยในการสร้างสรรค์งานโฆษณาชั้นเลิศ ให้กับหมวดสินค้าที่เปิดกว้างต่อจินตนาการที่สุดหมวดหนึ่งในโลกก็หมดไป ผู้บริโภคไทยจึงได้เห็นแต่งานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แสนน่าเบื่อ จะแบรนด์ไหนๆ ก็โปรโมตทัศนคติการทำดีเพื่อสังคม โฆษณาเลยออกมาหน้าตาเหมือนกันไปหมด เพราะโดนตีกรอบโดยหน่วยงานรัฐฯ เอาไว้แน่นหนา ห้ามโฆษณาล้ำเส้นที่ขีดไว้ พอบางแบรนด์แอบแพลมไปให้คนดังช่วยโพสต์รูปกับเครื่องดื่มของตนบนโลกโซเชียล ก็ไม่วายโดนคู่แข่งจับมาประจานว่าทำผิดกฎ เรียกได้ว่าเครียดกันไปหมดทั้งคนปั้นแบรนด์และคนโฆษณา โดนมัดมือมัดเท้าให้ทำงานอยู่ในกรอบ เราจึงไม่ได้เห็นงานตลกหลุดโลกแบบเบียร์ Newcastle โดยเอเจนซี่โฆษณา Droga5 จากนิวยอร์ค ที่คอยทำแคมเปญล้อเลียนซูเปอร์โบว์ล หนังโฆษณาสไตล์แอ็คชั่นมันส์ๆ โดย Wieden + Kennedy จากอัมสเตอร์ดัมที่ทำให้กับเบียร์ Heineken จนคว้า Gold Cannes Film Lions ได้แบบผูกปี หนังออนไลน์สุดเท่จากสุดยอดเอเจนซี่โฆษณาอิสระ Anomaly จากนิวยอร์คที่ได้ Jude Law มาเดินเรื่องโฆษณาเหล้าวิสกี้ Johnnie Walker Blue Label รวมไปถึงไอเดียล้ำๆ แบบที่ Anomaly กำลังครีเอทให้กับเบียร์ Budweiser ในตลาดอเมริกา เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้ จะเปลี่ยนชื่อเบียร์เป็น America ภายใต้แนวคิด America is in Your Hands โหนกระแสชาตินิยมต้อนรับเทศกาลโอลิมปิกที่จะแข่งขันกันที่บราซิล และฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ โคปา อเมริกา ซึ่งในปีนี้อเมริกาเป็นเจ้าภาพ โดย Budweiser ได้เข้าไปเป็นสปอนเซอร์หลักของทั้ง 2 มหกรรมกีฬาดังกล่าว ทั้งยังหวังผลยาวๆ ไปถึงกระแสการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี และไหนๆ ก็มาทางชาตินิยมกันแล้ว ก็ไปให้สุดโต่งกันเลย ดังนั้นนอกจากจะแทนที่โลโก้แบรนด์บนกระป๋องเบียร์ด้วยชื่อประเทศ America แล้ว ก็ยังพิมพ์คำขวัญของประเทศ E... Read The Rest →
a day: number 188: Agency Superstar
Global Review: Advertising ตอน เอเจนซี่ซูเปอร์สตาร์ By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 April 2016 ในวงการโฆษณา การขายหุ้นของเอเจนซี่โฆษณาให้กับบริษัทในแวดวงเดียวกันดูจะเป็นเรื่องปกติ เข้าทำนองปลาใหญ่กินปลาเล็ก ซึ่งโดยมากมักจะเกิดจากการที่บริษัทแม่ซึ่งเป็นเน็ตเวิร์คใหญ่ เช่น WPP เจ้าของเอเจนซี่ชั้นนำอย่าง Ogilvy, Y&R, JWT หรือ Omnicom เจ้าของ TBWA, BBDO, DDB เข้าไปไล่ซื้อหุ้นหรือกิจการของบริษัทครีเอทีฟในรูปแบบต่างๆ ทั้งเพื่อขยายบริการของตนเองและเพื่อขยายผลกำไร จึงเป็นเรื่องแปลกไม่น้อยเมื่อ Droga5 สุดยอดเอเจนซี่โฆษณาอิสระแห่งนิวยอร์ค ที่ก่อตั้งขึ้นโดยครีเอทีฟระดับแนวหน้าของโลก David Droga ขายหุ้นบริษัทตนเองถึง 49% ให้กับเอเจนซี่อีกแห่งคือ William Morris Endeavor หรือ WME ในปี 2013 ที่ว่าแปลกคือเอเจนซี่ที่ว่านี้ ไม่ใช่เอเจนซี่โฆษณาด้วยกันเอง หากแต่เป็นเอเจนซี่ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทน คอยดูแลผลประโยชน์ให้กับบรรดาศิลปิน นักร้อง นักแสดง โดยเฉพาะกลุ่มดาราฮอลลีวู้ด ไปจนถึงนักกีฬาชื่อดังมากมาย และเนื่องจากไม่ใช่เรื่องราวการซื้อขายในแบบที่คนในวงการโฆษณาคุ้นเคย การซื้อขายครั้งนั้นจึงไม่ได้รับความสนใจมากนัก เรียกได้ว่า กระแสการพูดถึงและเป็นข่าว แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน เมื่อเทียบกับตอนที่ Publicis ประกาศควบรวมกิจการกับ Omnicom ในปีเดียวกัน หากแต่ผลงานที่ออกมาในช่วงสามปีมานี้ของ Droga5 กลับเรียกเสียงฮือฮาได้มากขึ้นเรื่อยๆ วิสัยทัศน์ชั้นเลิศในการที่ David Droga ตัดสินใจร่วมทุนกับเอเจนซี่ที่ทรงอิทธิพลกับซูเปอร์สตาร์ในฮอลลีวู้ด แทนที่จะขายหุ้นให้กับเน็ตเวิร์คโฆษณายักษ์ใหญ่เพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋า ยิ่งมายิ่งส่งผลถึงทิศทางของผลงาน ก็ถ้าคุณเป็นนักผลิตไอเดียชั้นยอดในการช่วยลูกค้าขายสินค้า จะมีอะไรดีไปกว่าการได้สุดยอดเซเลบริตี้มาช่วยถ่ายทอด และ WME ที่มาเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ ก็คือคำตอบนั้น เริ่มความฮือฮาด้วยการที่ Droga5 สามารถจัดสรรให้นางเอกชื่อดัง Naomi Watts เดินบนพรมแดงในเทศกาล Cannes Film Festival ปี 2014... Read The Rest →
a day: number 187: Finding Brand Blunders
Global Review: Advertising ตอน อยากจับผิดแบรนด์ เชิญทางนี้ By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 March 2016 ความรวดเร็วว่องไวในการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ต ได้เปลี่ยนยุคนี้ให้เป็นยุคที่เสียงของผู้บริโภคเป็นเสียงสวรรค์ แถมเสียงดังฟังชัดตามเทคโนโลยี 4G ชนิดที่ว่าแบรนด์ไหนเผลอทำอะไรผิดพลาดขึ้นมา เป็นได้ถูกเอาไปล้อไปอำบนออนไลน์จนต้องอายม้วนต้วน ตัวอย่างดังๆ บ้านเรา พาลใกล้ตัวผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเสียด้วย คือเรื่องสัญญาณมือถือล่ม ซึ่งก็ให้บังเอิญมีอยู่แบรนด์นึงที่ชอบทำล่มบ่อยๆ ด้วยสิ จนมีคราวนึงเมื่อไม่นานมานี้ที่ สัญญาณล่มเป็นวันๆ จนลูกค้าใช้งานไม่ได้ทั้งโทร.เข้าโทร.ออกปกติและอินเทอร์เน็ต เจอผู้บริโภคโวยลั่น ทำเอาแอดมินของคู่แข่งยักษ์ใหญ่อีกแบรนด์อดใจไม่ไหว กระโดดมาโพสต์ลงช่องทางโซเชี่ยลบอกให้ผู้บริโภคย้ายค่ายมาใช้บริการตนเอง ผลเหรอครับ ทำเอาแบรนด์คู่แข่งที่ออกมาแซวนี้ เกือบล่มตามไปด้วย เพราะนิสัยคนไทย ไม่ชอบเห็นคนล้มโดนเหยียบไงครับ ดังคำโบราณว่าไว้ ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าข้าม ซึ่งผลลัพธ์แบบนี้ คงไม่ได้เห็นในแบรนด์ฝรั่ง อย่างล่าสุด กล้อง Nikon ประกาศผลผู้ชนะเลิศการประกวดภาพถ่าย NiKonCaptures ให้รางวัลกับผู้ชนะ Chay Yu Wei ที่ถ่ายภาพมุมเสยของบันไดในไชน่าทาวน์สิงคโปร์ มองเห็นเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่านตรงกึ่งกลางพอดิบพอดี โดยรางวัลที่ให้ถึงจะเป็นรางวัลเล็กๆ แต่ด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ใหญ่ ทำให้ภาพชนะเลิศนี้ถูกนำมาพินิจพิเคราะห์โดยชาวเน็ตทั่วโลกอย่างกว้างขวาง จากนั้น เรื่องราวก็กลายเป็นกระแสครึกโครม เมื่อบล็อกเกอร์สายงานดีไซน์ออกมาเผาภาพนี้พร้อมหลักฐานว่าเครื่องบินที่เห็นในภาพ เกิดจากการทำรีทัชใน Photoshop แปะเข้าไป ไม่ได้เกิดจากการช่างสังเกตและรู้จักแสวงหาเวลาที่พอดิบพอดี เพื่อให้ได้มาซึ่งภาพถ่ายนี้แต่อย่างใด ทั้งที่วิธีดูภาพรีทัชก็แสนง่าย แค่เร่ง Level ก็จะเห็นร่องรอยการตัดแปะ แล้วทางแบรนด์ที่เป็นผู้นำนวัตกรรมด้านการถ่ายภาพมองข้ามไปได้อย่างไร ทำเอาเกิดกระแสล้อเลียนภาพนี้ไปทั่ว จนทาง Nikon ต้องออกมาแถลงขออภัยพร้อมกับถอดถอนรางวัลชนะเลิศออกแทบไม่ทัน แต่ก็ยังช้ากว่าคู่แข่งเสือปืนไวอย่าง Canon แคนาดา ที่จัดแคมเปญล้อเลียนแบบเผาขน ให้ผู้บริโภคส่งภาพถ่ายที่มีการรีทัชเครื่องบินเข้ามาประกวด ถูเกลือลงบนรอยแผลคู่แข่งกันแบบสดๆ บนโลกออนไลน์ อีกกรณีล่าสุดที่กำลังจับตาดูอยู่ว่าแบรนด์คู่รักคู่แค้นอย่าง Samsung จะหยิบมาต่อยอดล้อเลียนหรือเปล่า คือภาพถ่ายของ Tim Cook ซีอีโอใหญ่ของค่าย Apple ที่ถ่ายภาพบรรยากาศในสนาม Levi’s Stadium... Read The Rest →
a day: number 182: King of Peace
Global Review: Advertising ตอน Burger King ราชันย์แห่งสันติภาพ By Weerachon Weeraworawit, Published: 31 October 2015 กลายเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการโฆษณาไปแล้ว กับงานโฆษณาที่มีเนื้อหาตั้งอยู่บนแกนของวันสำคัญต่างๆ แทนที่จะตั้งโจทย์อยู่บนจุดขายหรือทัศนคติของแบรนด์แบบที่เราคุ้นเคย ที่บอกว่าเป็นเทรนด์ไปแล้ว เห็นได้จากวันแม่บ้านเราที่ผ่านมา มีหลายแบรนด์กระโดดเข้ามาทำหนังโฆษณาต้อนรับวันสำคัญนี้กันยกใหญ่ โดยก่อนหน้านี้ งานโฆษณาที่อิงกับวันสำคัญ ที่เรียกเสียงฮือฮามาถึงเมืองไทย มักจะมาจากประเทศอังกฤษและอเมริกา โดยที่อังกฤษจะมีหนังโฆษณาดีๆ ออกมาทุกปีในช่วงวันคริสต์มาส ที่แต่ละแบรนด์เทงบฯโฆษณาลงมากันแบบมโหฬาร ขณะที่อเมริกันชน ก็มีผลงานรำลึกถึงโศกนาฏกรรม 9/11 ออกมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ไหนจะวันอีสเตอร์ วันชาติ วันพ่อ ฯลฯ จึงไม่แปลกที่งานโฆษณาของ 2 ประเทศนี้จะมีความแพรวพราวกว่าประเทศอื่นๆ มายาวนาน ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะโจทย์ต้นทางมีความหลากหลายกว่านั่นเอง และจากเทรนด์นี้ ทำให้เรากำลังได้เห็นแคมเปญที่สดใหม่จนน่าจะได้รับรางวัล Titanium Lions ที่คานส์ในปีหน้าเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา แคมเปญที่ว่านี้เป็นของ Burger King ที่ทำขึ้นเพื่อเพิ่มการรับรู้ที่มีต่อวัน International Day of Peace หรือ World Peace Day อันหมายถึงวันสันติภาพสากล ที่ริเริ่มโดยองค์การสหประชาชาติ ในปี 2524 และถือเป็นวันสำคัญของโลกโดยเฉพาะกับชาติที่มีการรบพุ่งก็มักจะเลือกให้วันที่ 21 กันยายน เป็นโอกาสพิเศษในการหยุดยิงกันชั่วคราว ไอเดียของ Burger King ก็ง่ายๆ เริ่มจากการส่งสาส์นสงบศึกถึงคู่แข่งสำคัญ McDonald’s ผ่านหนังสือพิมพ์หลายฉบับในอเมริกา ชวนให้หยุดแข่งขันทำสงครามการตลาดกันหนึ่งวัน มาร่วมทำเบอร์เกอร์เวอร์ชั่นพิเศษฉลองวันสันติภาพสากลกันดีกว่า ตั้งชื่อให้เสร็จสรรพว่า McWhopper แหม! ช่างให้เกียรติคู่แข่งกระไรเช่นนี้ ให้ชื่อคนอื่นอยู่หน้าสินค้าไอเดียตัวเองซะด้วย โดยนำชื่อเบอร์เกอร์เบอร์หนึ่งของตนเองคือ Whopper มารวมเข้ากับเบอร์เกอร์สุดฮิตของ McDonald’s คือ Big Mac เกิดเป็นชื่อเบอร์เกอร์แห่งสันติภาพ ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังออกแบบชุดพนักงาน กล่องเบอร์เกอร์... Read The Rest →
a day: number 172: Berlin Wall
Global Review: Advertising ตอน รำลึกเส้นกั้นขวางเสรีภาพ Berlin Wall By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 December 2014 วันที่ 9 เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลก เพราะเป็นวันครบรอบ 25 ปี ฉลองการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ที่ไม่เพียงเป็นเส้นแบ่งแยกประเทศเยอรมันออกเป็นสองส่วนมาถึง 28 ปี ด้วยระยะทาง 155 กิโลเมตร แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนนิยาม “หลังม่านเหล็ก” ในยุคสงครามเย็น กั้นขวางชีวิตผู้คนในซีกฝั่งสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ออกจากโลกเสรีนิยมตะวันตก ตัดขาดสิทธิเสรีภาพซึ่งเป็นเสมือนอากาศบริสุทธิ์ของมนุษย์ จนมีผู้พยายามหาทางลักลอบข้ามฝั่งจากเยอรมันตะวันออกเข้ามายังเยอรมันตะวันตก (ในยุคนั้น) ถูกสังหารล้มตายไปเป็นจำนวนมาก นั่นทำให้ในวันที่กำแพงนี้ล่มสลาย ไม่เพียงแต่คนเยอรมันเท่านั้นที่ดีใจ ที่จะได้กลับมาเจอหน้าญาติมิตรที่โดนกำแพงนรกนี้กั้นขวางเอาไว้ คนทั้งโลกก็ดีใจกันมาก จำได้ว่าในตอนนั้น ทั่วโลกนี่เฉลิมฉลองกันข้ามปีเลยทีเดียว ที่เบอร์ลินเองก็เช่นกัน มีศิลปินจำนวนมากเข้าไปแสดงคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองเสรีภาพ ที่โด่งดังที่สุดมีแผ่น DVD บันทึกการแสดงสดขายดิบขายดีมาถึงทุกวันนี้ก็ต้องยกให้กับวง Pink Floyd ที่ไปเปิดการแสดงหน้ากำแพงเบอร์ลินพร้อมแขกรับเชิญชื่อดังอย่าง Scorpions, Bon Jovi, Sinead O’Connor, Cyndi Lauper, Bryan Adams เป็นต้น ส่วนใครที่อยากรู้ว่าการใช้ชีวิตหลังกำแพงบอร์ลินหรือหลังม่านเหล็กในอดีตนั้นเป็นเช่นไร ก็ลองหาหนังเยอรมันที่ไปคว้ารางวัลออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมในปี 2007 มาครอง เรื่อง The Lives of Others มาดูนะครับ นอกจากเนื้อหาบทภาพยนตร์ การแสดงและวิธีการถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวของผู้กำกับ Florian Henckel von Donnersmarck จะสุดยอดแล้ว ชื่อเรื่องก็บอกเป็นนัยอย่างชัดเจนครับว่าเป็นการส่องดูชีวิตที่เลือกไม่ได้ของคนเยอรมันตะวันออก ที่เกินกว่าจินตนาการของมนุษย์มากสิทธิเสรีภาพอย่างพวกเราจะเข้าใจ ย้อนกลับมาดูงานโฆษณากันบ้าง จะว่าไปแล้วในปี 2009 ที่ผ่านมา ชาวโลกก็ได้ฉลองการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินมาแล้วครับ ในโอกาสครบรอบ 20 ปี โดยดาวเด่นของแบรนด์ที่ร่วมเฉลิมฉลองในครั้งนั้นก็คือ CNN International ที่ในปีนั้นพวกเขาปรับโฉมตนเองใหม่ให้เป็นสถานีข่าวของคนทั่วโลกมากขึ้น... Read The Rest →