BEYOND PRINT: 21th Article: Today’s Woman in Advertising

คิดนอกกระดาษ ตอน ผู้หญิงในงานโฆษณาวันนี้ ชีวิตดี๊ดี By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 June 2015 งานโฆษณายุคนี้นับได้ว่าเป็นยุคของงานคิดดีทำดี ส่งเสริมสังคมกันแบบเต็มตัวไปแล้ว เห็นได้จากการที่งานในลักษณะนี้นอกจากจะได้รับการยกย่องจากในวงการเราเองแล้ว แต่ยังแผ่ขยายอิทธิพลกว้างไกลไปถึงวงการอื่นๆ จึงไม่แปลกที่ผลการแจกรางวัลขวัญใจชาวเน็ต Webby Award ในปีนี้ ผลงานหนังไวรัล Like a Girl โฆษณาผ้าอนามัย Always ในเครือ P&G สามารถกวาดรางวัลใหญ่ไปหลายหมวดทั้งในฐานะงานโฆษณาอย่าง Best Online Commercials ในฐานะหนังออนไลน์อย่าง Best Use of Video (Social), Viral Marketing (Interactive Advertising & Media) ไปจนถึงในฐานะสื่อบันเทิงอย่าง Short Form Branded Entertainment (Online Film & Video) ทั้งที่ถ้าดูตามเนื้อผ้าแล้ว งานโฆษณาชิ้นนี้ที่รังสรรค์โดยความร่วมมือของ Leo Burnett ชิคาโก ลอนดอน และโตรอนโต มีความไม่สมบูรณ์แบบอยู่มากมายหลายจุด โดยเฉพาะคุณภาพการถ่ายทำ กล่าวคือถ้าดูหนังเรื่องนี้แว้บแรก ก็เรียกได้ว่ามองไม่เห็นความเนี้ยบกันเลยซักจุด แต่จุดที่ทำให้หนังเรื่องนี้ที่ออกฉายทางออนไลน์ครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว กลายเป็นหนังโฆษณาที่ได้รับการพูดถึงและแชร์มากที่สุดในปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ ก็นับได้ร่วมๆ ร้อยล้านวิว รวมถึงเป็นเต็งหามที่จะคว้ารางวัลใหญ่ในคานส์ประจำปีนี้ ต้องยกให้กับไอเดียและ Insight ที่ทั้งเกี่ยวเนื่องกับพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแยกไม่ได้ และยังมีจุดพูดที่เข้ากับความเป็นผ้าอนามัยอย่างแกะไม่ออก หนังเรื่องนี้ถ่ายทำกันง่ายๆ ในสตูดิโอแห่งหนึ่ง ให้เห็นกันจะๆ ไปเลยว่าผู้กำกับกำลังนั่งอยู่หลังกล้องคอยสัมภาษณ์ตัวแทนผู้บริโภคซึ่งประกอบด้วยวัยรุ่นกับเด็กๆ ทั้งเพศหญิงและชาย แต่ทีเด็ดอยู่ที่ข้อความที่ทยอยปรากฎขึ้นมาประกอบการเล่าเรื่อง โดยตั้งคำถามมาก่อนเลยว่า การทำอะไรเหมือนผู้หญิงเนี่ย (Like a Girl) มันเป็นไงเหรอ? แล้วก็ให้วัยรุ่นหญิงและชายอธิบาย จากนั้นก็ต่อด้วยคำถามจากปากทีมงานว่า ไหนทำให้ดูซิ? ภาพก็แสดงให้เห็นว่าพวกวัยรุ่นทั้งหญิงชาย ต่างทำท่าล้อเลียนท่าทางผู้หญิงอย่างการวิ่ง... Read The Rest →

a day: number 178: Farewell Mad Men

Global Review: Advertising ตอน บทส่งท้ายตำนานโฆษณา Mad Men By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 June 2015 ในที่สุด ซีรี่ส์สุดฮิต Mad Men ก็ออกอากาศตอนสุดท้ายไปที่อเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยการที่ Mad Men เป็นซีรี่ส์ขวัญใจมหาชน ต้องยกความดีความชอบให้กับทีมค้นคว้าวิจัยที่ผูกเรื่องราวดราม่าของคนโฆษณาในยุค 60’s ให้เข้ากับเบื้องหลังผลงานโฆษณาระดับตำนานจำนวนมากได้อย่างลงตัว ยิ่งฉากจบของเรื่องที่ให้พระเอกคือ Don Draper ไปบำบัดสภาพจิตที่ศูนย์บำบัด แล้วตัดไปที่หนังโฆษณา Coca Cola สุดคลาสสิคเรื่อง Hilltop บอกเป็นนัยๆ ว่า ในที่สุด พระเอกหายดีแล้วได้กลับมาสร้างสรรค์ผลงานโฆษณาในดวงใจอเมริกันชนชิ้นนี้ ถือได้ว่าทีมค้นคว้าวิจัยในการเขียนบท Mad Men แม่นและมีความเข้าใจโลกโฆษณามากๆ เพราะหลังจากที่ออกอากาศครั้งแรกในปี 1971 หนังโฆษณาเรื่องนี้ก็ได้สร้างรากฐานที่สำคัญให้กับวงการโฆษณายุคใหม่ โดยนำพา Emotion เข้ามาแทนที่ Function ไม่เน้นขายคุณสมบัติของสินค้าโครมๆ เหมือนที่ผ่านมา แต่ครีเอทีฟตัวจริงที่เป็นผู้รังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ แน่นอนครับว่าไม่ใช่ชายในจินตนาการอย่างนาย Don Draper หากแต่เป็น Bill Backer ซึ่งตำแหน่งในตอนนั้นคือ Creative Director ของ McCann Erickson (ซึ่งในเรื่อง Mad Men เอเจนซี่โฆษณาแห่งนี้เข้าควบรวมกิจการของ Don Draper ในช่วงเวลานั้นพอดี) และที่มาของหนังโฆษณาเรื่องนี้เกิดจากบรีฟให้ทำเพลงโฆษณาทางวิทยุ โดยนาย Bill Backer ได้บินจากอเมริกาไปทำเพลงที่อังกฤษร่วมกับทีมนักแต่งเพลงที่นั่น แต่เที่ยวบินไปลอนดอนของเขา เผชิญหมอกหนาทึบทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางการบินไปแวะจอดที่ไอร์แลนด์ วันถัดมา เขาพบว่ากลุ่มผู้โดยสารที่โกรธเกรี้ยวสายการบินในวันแรก ต่างมานั่งร่วมตัวกันในร้านเครื่องดื่มที่สนามบิน หัวเราะให้กับประสบการณ์ที่ต้องพลาดจุดหมายปลายทางอย่างสนุกสนานไปพร้อมๆ กับขนมขบเคี้ยวและโค้ก ช่วงเวลานั้นเองที่ Bill Backer ปิ๊งไอเดียมองเห็นความยิ่งใหญ่ของขวดน้ำอัดลมเล็กๆ นี้ ว่าไม่เพียงมีคุณสมบัติสร้างความสดชื่นดับกระหาย... Read The Rest →

a day: number 177: LGBT in Cannes

Global Review: Advertising ตอน เพศที่สามในคานส์ By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 May 2015 สืบเนื่องจากข้อเขียนในฉบับที่แล้ว ว่าด้วยเรื่องรางวัลใหม่ในเทศกาล Cannes Lions International Festival of Creativity ที่กำลังจะมาถึงในกลางปีนี้ คือรางวัลสิงโตแห่งสิทธิสตรี Glass Lion ผู้อ่านหลายท่านทักมาว่า เอ๊ะ! เวทีคานส์ก้าวหน้าขนาดสนับสนุนผลงานโฆษณาที่ส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างเพศชายกับหญิงแล้ว แต่เพศสำคัญอีกเพศหนึ่งคือเกย์กับเลสเบี้ยนล่ะ ทางคานส์มีรางวัลพิเศษอะไรมามอบให้หรือเปล่า คำตอบคือยังไม่มีรางวัลพิเศษครับ แต่ทางคานส์เองก็ไม่ได้ละเลยผลงานดีๆ ที่คุยกับเพศที่สาม เห็นได้จากผลการตัดสินปีที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการตัดสินในหมวดสื่อโฆษณากลางแจ้งหรือ Outdoor Lions ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ โหวตให้ผลงานชื่อ GayTM ของธนาคาร ANZ ที่สร้างสรรค์โดยเอเจนซี่ Whybin\TBWA Group เมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย เป็นผู้คว้ารางวัลสูงสุด Grand Prix ทั้งยังกวาดสิงโตในหมวดอื่นๆ กลับบ้านอีกรวมถึง 7 รางวัลเลยทีเดียว จุดเริ่มต้นของแคมเปญนี้ เกิดจากทางธนาคาร ANZ ได้ให้การสนับสนุนเทศกาลพาเหรดเกย์และเลสเบี้ยนประจำปีที่เมืองซิดนีย์ (Sydney Gay and Lesbian Mardi Gras) มานานหลายปี และเพิ่งตัดสินใจเลื่อนฐานะตนเองขึ้นมาเป็นสปอนเซอร์หลัก จึงอยากทำแคมเปญโฆษณาสนุกๆ ออกไปให้คนทั่วไปโดยเฉพาะชาวสีรุ้ง เกิดความรู้สึกที่ดีกับทางธนาคาร ผลที่ได้จึงกลายเป็นผลงาน CSR สะท้านโลก ทั้งที่แก่นแกนของแคมเปญนั้นแสนเล็ก คือการแปลงโฉมตู้เอทีเอ็มหน้าตาธรรมดาๆ ออกจะดูน่าเบื่อด้วยซ้ำไป ให้กลายเป็นฟู่ฟ่าน่าหยิก โดยตกแต่งด้วยขนเฟอร์ เพชรนิลจินดา ให้ทั้งตู้ดูระยิบระยับเตะตาในช่วงเทศกาลพาเหรดเกย์ พร้อมทั้งทำกราฟิกหน้าจอเน้นสีรุ้งให้สอดคล้องกับรูปโฉมใหม่ของตัวตู้ ปิดท้ายด้วยสลิปเอทีเอ็มที่แน่นอนว่าต้องพิมพ์ลวดลายสีรุ้ง และทางธนาคารยังมอบรายได้จากการทำธุรกรรมผ่านตู้ GayTM โดยลูกค้าขาจรทั้งหมดให้กับมูลนิธิ Twenty10 ที่รณรงค์เรื่องความเสมอภาคทางเพศในซิดนีย์ ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้แคมเปญแปลงโฉมตู้เอทีเอ็มนี้แพร่หลายกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก ต้องยกความดีความชอบให้กับสื่อโซเชียล ด้วยความที่ตู้เกย์ทีเอ็มถูกจัดวางอย่างถูกที่ถูกทางกลางเมืองในเทศกาลพาเหรดเกย์ มันจึงยั่วยวนชวนให้คนที่เดินผ่านไปมาเก็บอาการไว้ไม่ไหว ต่างพากันแชะถ่ายรูปกับตู้... Read The Rest →

BEYOND PRINT: 20th Article: Virtual Reality, A New Experience

คิดนอกกระดาษ ตอน Virtual Reality ประสบการณ์ใหม่ของคนโฆษณา By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 April 2015 ถ้าใครติดตามอัพเดทงานโฆษณาและสื่อสารการตลาดอยู่เรื่อยๆ จะเห็นว่าช่วงนี้ได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างน่าจับตา นั่นคือกระแส Virtual Reality (VR) โดยเฉพาะต้นปีมานี้ หลังจากที่ซัมซุงออกสินค้าไลน์ใหม่สู่ตลาดคือ Samsung Gear VR ซึ่งเป็นแว่นตาจอภาพเมื่อใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน Samsung Note 4 เท่ากับทลายกำแพงราคาเดิมๆ ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถใช้งาน VR ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าอุปกรณ์ด้วยราคาหลักล้านเหมือนที่ผ่านมา ตามมาด้วยบริษัทผู้ผลิตของเล่นชื่อดัง Mattel ได้จับมือกับ Google ปัดฝุ่น View-Master แว่นตาดูภาพเคลื่อนไหวขวัญใจเด็กๆ ที่ออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อ 75 ปีก่อน และสร้างยอดขายทั่วโลกไปกว่าหนึ่งร้อยล้านชิ้น พร้อมม้วนภาพเคลื่อนไหวกว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านตลับ Mattel ออกแบบ View-Master ให้ผู้สวมแว่นตานี้รู้สึกเสมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงแบบ VR โดยตั้งราคาขายปลีกเพียง 900 บาท พร้อมจำหน่ายม้วนภาพเคลื่อนไหวดิจิตอลครอบคลุมเนื้อหาหลากหลาย ตั้งแต่การท่องโลกไดโนเสาร์ ผจญภัยใต้มหาสมุทร ไปจนถึงตะลุยอวกาศกับนาซ่า ฯลฯ ทั้ง Mattel และ Samsung เป็นสองบริษัทรายแรกๆ ที่ออกอุปกรณ์รับชม VR สู่ผู้บริโภคทั่วไป ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่อีกมากมายหลายบริษัทที่กำลังทยอยเปิดตัวสินค้าสุดไฮเทคนี้ เช่น Microsoft ออก HoloLens Augmented Reality ด้าน Sony ก็มี Project Morpheus แต่ที่ฮือฮาสุดๆ คงต้องยกให้การที่ยักษ์ใหญ่โซเชียลอย่าง Facebook เข้าซื้อกิจการของ Oculus VR ผู้ผลิตอุปกรณ์รับชม VR รายใหญ่ไปเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยราคามโหฬารถึงหกหมื่นกว่าล้านบาท โดย Mark Zuckerberg อธิบายเหตุผลในการซื้อกิจการไว้อย่างน่าฟังว่า... Read The Rest →

Advertising Newspaper – Interview with the Well Done Bangkok

Our full interview in an award-winning Thai adverting & design magazine Advertising Newspaper Issue #20 Published in April 2015 *กรุณาคลิกที่รูปเพื่ออ่านไฟล์ใหญ่ **Noted from us: 1) ในบทสัมภาษณ์หน้าที่สอง เวลล์ดันบางกอก มีการทำงาน โปรดักส์ดีไซน์ ไม่ใช่ โปรดักชั่นดีไซน์ 2) ในบทสัมภาษณ์หน้าสุดท้าย เฮดไลน์อธิบายงานมูลนิธิรามาธิบดี ไม่ใช่ Innite Giving ข้อความที่ถูกต้องคือ Infinite Giving

« Older Entries Newer Entries »

Back to top