a day: number 176: Cannes Glass Lions

Global Review: Advertising ตอน สิงโตแห่งสิทธิสตรี Cannes Glass Lion By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 April 2015 ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาล Cannes Lions International Festival of Creativity ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-27 มิถุนายน และต้องขอตบมือดังๆ ให้กับคณะผู้จัดงานในปีนี้ ที่ประกาศเพิ่มหมวด Glass Lion หรือ Lion for Change มอบสิงโตคานส์ให้กับผลงานโฆษณาที่ส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาคทางเพศ แถมจะนำเงินค่าสมัครเข้าประกวดในหมวดนี้ทั้งหมด ยกให้องค์กรการกุศลที่สนับสนุนการขจัดอคติทางเพศ จุดเริ่มต้นของรางวัลนี้เกิดขึ้นปีที่แล้ว เมื่อทางคานส์ได้จับมือกับ Sheryl Sandberg เจ้าเม่เฟซบุ๊คและผู้ก่อตั้งมูลนิธิ LeanIn.org ปั้นแคมเปญ See It Be It ในเทศกาลคานส์ ด้วยแนวคิดที่ว่า คุณจะไม่สามารถเป็นในสิ่งที่คุณไม่ได้เห็น แคมเปญนี้จึงแนะนำผู้หญิงแถวหน้าให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นหญิงสาวรุ่นใหม่ได้เห็น เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในเพศแม่ เกิดแรงบันดาลใจที่จะไปให้ถึงฝั่งฝัน เมื่อแคมเปญได้รับผลตอบรับที่ดี คุณ Sheryl เธอจึงแนะนำคานส์ให้แจกรางวัลนี้แบบถาวร ต้องขอสารภาพครับว่าไม่แน่ใจถึงสาเหตุที่ใช้ชื่อ สิงโตแก้ว คงต้องขอให้ทีมงาน a day ที่ไปคานส์ปีนี้ลองซักถามความหมายจากคณะผู้จัดดู ส่วนตัวเดาว่าถ้าไม่เกี่ยวข้องกับรองเท้าแก้วของซินเดอเรลล่า ก็น่าจะมาจากสำนวนฝรั่ง The Glass Door อันหมายถึงประตูกระจกในออฟฟิศที่โปร่งใสจนเข้าใจว่าไม่มีอยู่ ต่อเมื่อผู้หญิงเดินชนโครมเข้าให้นั่นแหละ ถึงได้รู้ว่ากำแพงแก้วที่มองไม่เห็น หรือการกีดกันทางเพศในออฟฟิศ มีอยู่จริงให้เจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจ จากที่คานส์เคยเสียท่าให้เวทีอื่นในการออกรางวัลส่งเสริมสังคม เช่น ปล่อยให้สถาบัน The One Club ของสหรัฐอเมริกา ตัดหน้าออก Green Pencil ก่อน Green Lion มอบรางวัลยกย่องผลงานโฆษณาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดีเด่น และปล่อยให้เวที D&AD... Read The Rest →

a day: number 175: Ad Trends in Fashion Week

Global Review: Advertising ตอน แฟชั่นงานโฆษณา ใน London Fashion Week By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 March 2015 เป็นที่ทราบกันดีว่างานแฟชั่นโชว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นตัวกำหนดเทรนด์การแต่งตัวในแต่ละปี ประกอบไปด้วยเวทีที่ปารีส มิลาน นิวยอร์ค และลอนดอน ถ้าเทนนิสมีการแข่งขัน 4 รายการหลักใน 4 เมืองใหญ่ที่รวมเรียกว่า แกรนด์สแลม เทศกาลแฟชั่นโชว์ที่ทั้ง 4 เมืองใหญ่ข้างต้น ก็เป็นประหนึ่งแกรนด์สแลมของโลกแฟชั่น งาน Fashion Week ระดับแกรนด์สแลมนี้ จะจัดกันครั้งละประมาณหนึ่งสัปดาห์ โดยปีนี้เริ่มต้นที่ New York Fashion Week ก่อนเพื่อน แล้วค่อยตามมาด้วย London Fashion Week เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และที่เมืองลอนดอนนี้เอง นอกจากจะมีการอัพเดทเทรนด์เสื้อผ้าหน้าผมใหม่ๆ ให้แฟชั่นนิสต้ากับฮิบสเตอร์ได้ซี้ดซ้าดกันแล้ว งานโฆษณาของแบรนด์แฟชั่นที่นี่ ที่เกี่ยวข้องกับ Fashion Week ยังจัดได้ว่าล้ำหน้ากว่าใครในโลกหล้า โดยหัวหอกใหญ่ที่สร้างงานล้ำๆ มาสนอง Need ของกลุ่มเป้าหมายระดับผู้นำเทรนด์แฟชั่น ก็คือ Topshop แบรนด์สายเลือดอังกฤษที่เน้นผลิตเสื้อผ้าแบบแคทวอล์คในราคาที่คนทั่วไปเอื้อมถึง รวมทั้งออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นพิเศษร่วมกับแฟชั่นดีไซเนอร์และเซเลบ งานโฆษณาของพวกเขาในเทศกาลนี้ที่ผ่านมา เน้นการทำโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ร่วมกับ Social Media เจ้าใหญ่ๆ มาตลอด หลังจากที่ในปี 2012 พวกเขาจุดพลุผู้นำเทรนด์โฆษณายุคดิจิตอลด้วยการถ่ายทอดสดแฟชั่นโชว์ ที่ให้คนดูสามารถเลือกแบบเสื้อผ้าและช้อปปิ้งได้สดๆ ใน Facebook กับแคมเปญ Customize The Catwalk ต่อเนื่องตามมาด้วยการจับมือกับ Google+ ใช้ทุกฟังก์ชั่นของโซเชียลมีเดียเจ้านี้มาสร้างการมีส่วนร่วมกับคนดู ให้ได้สัมผัสบรรยากาศแฟชั่นโชว์ พูดคุยกับนางแบบ ติดตามเบื้องหลังแคทวอล์ค และช้อปเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่กันไปแบบเต็มอิ่ม มาปีนี้ Topshop... Read The Rest →

BEYOND PRINT: 19th Article: Dress Normal

คิดนอกกระดาษ ตอน Dress Normal แคมเปญเสื้อผ้าธรรมดาที่ไม่ธรรมดา By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 February 2015 เมื่อพูดถึง Wieden+Kennedy ทุกคนคงรู้ดีว่าเป็นสุดยอด Independent Advertising Agency ของโลก เจ้าของผลงานโฆษณาระดับตำนานอย่าง Nike, Coke และ Old Spice ซึ่งมีสาขากระจายไปยังเมืองสำคัญทั่วโลก แต่ถ้าถามว่าสาขาไหนที่สามารถผลิตผลงานอันลือลั่นออกมาได้อย่างต่อเนื่อง หลายคนคงตอบได้ทันทีว่าเป็นสาขาเมือง Portland อเมริกา สาขาเมือง Amsterdam เนเธอร์แลนด์ สาขาเมือง London อังกฤษ รวมไปถึงสาขาเมือง Tokyo ญี่ปุ่น น้อยคนนักจะคิดถึงสาขาเมือง New York อเมริกา ซึ่งเป็นสาขาที่ W+K เพิ่งเปิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง และในการเปิดออฟฟิศที่ New York รอบนี้ ทาง W+K เองก็ต้องดิ้นรนไม่น้อยกว่าจะตั้งหลักได้ โดยเริ่มมีผลงานสร้างชื่อให้ตนเองอย่าง ESPN, Heineken แต่แคมเปญที่ทำให้ W+K New York เริ่มมีชื่อเสียงติดลมบนก็คือแคมเปญหนังโฆษณาเหล้า Southern Comfort เมื่อปีที่แล้ว ที่แสนจะแปลกแหวกแนว เล่นกับคาแรคเตอร์คนดื่มแบบสุดโต่งจนกวาดรางวัลมากมายในทุกเวทีที่ส่งผลงานเข้าประกวด และมาปีนี้พวกเขาก็ทำให้ครีเอทีฟและนักการตลาดทั่วโลกต้องหันมาจับตามองด้วยความทึ่งในฝีไม้ลายมืออีกครั้ง เรียกได้ว่าแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฐานะเชื้อสาย W+K ระดับหัวแถว กับแคมเปญใหม่ที่ทำให้แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง Gap อย่างที่ทราบกันดีว่าภาพลักษณ์ของ Gap เริ่มตกลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากการเน้นทำโปรโมชั่นในร้านแบบไม่ลืมหูลืมตา เรียกได้ว่าถ้าเดินเข้าร้าน Gap ที่อเมริกา เราจะได้เห็นกระบะติดป้าย Sale ทิ่มตาเรียกให้เราไปคุ้ยค้นอยู่ตลอดเวลา จนภาพลักษณ์ของแบรนด์เริ่มกลายเป็นของถูกสำหรับนักช้อป แล้วแบรนด์แฟชั่นเนี่ยนะ ดูกระจอกได้ที่ไหน ถ้าคนใส่เสื้อผ้าเริ่มขาดความภูมิใจในแบรนด์ พวกเขาก็พร้อมจะเปลี่ยนใจไม่ซื้อมาสวมใส่อีก จึงถึงควรแก่เวลาที่ผู้บริหารของ Gap จะต้องลุกขึ้นมาปัดฝุ่นเรื่องภาพลักษณ์และวิธีการสื่อสารใหม่หมด... Read The Rest →

a day: number 174: Hijacking the Super Bowl

Global Review: Advertising ตอน ไฮแจ็ค Super Bowl By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 February 2015 การแข่งขันอเมริกันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ หรือที่รู้จักกันดีในนาม Super Bowl นอกจากจะแข่งขันแบบเอาเป็นเอาตายทั้งตัวนักกีฬาและกองเชียร์แล้ว อีกหนึ่งการแข่งขันที่เข้มข้นไม่แพ้กันไม่ได้เกิดขึ้นบนสนามแข่ง หากแต่เกิดในโลกโฆษณา เนื่องจากกระแสการพูดถึง รวมถึงผลการวิจัยของ Nielsen ถึงประสิทธิผลของหนังโฆษณาในช่วง Super Bowl ทำให้เจ้าของสินค้าและบริการที่อเมริกาต่างเทเงินมาซื้อเวลาในช่วงถ่ายทอดสดกันอย่างบ้าคลั่ง ดันให้ราคาค่าออกอากาศหนังโฆษณา 30 วินาทีพุ่งไปที่ 4 ล้านดอลล่าร์ และยอดรวมของเงินค่าโฆษณาทะยานไปที่ 331.8 ล้านดอลล่าร์ แปลงเป็นค่าเงินไทยก็กว่าหมื่นล้านบาท นั่นจึงทำให้ช่วง Super Bowl กลายเป็นเมกะของคนโฆษณาที่นั่น และผู้โฆษณารายใหญ่ที่สุดในช่วงเวลานี้ อันดับหนึ่งคือ Anheuser-Busch InBev เจ้าของเบียร์ Budweiser และ Bud Light ในขณะที่ PepsiCo Inc. เจ้าของน้ำอัดลม Pepsi และชิพ Doritos ตามมาเป็นอันดับที่ 2 จึงสมเหตุสมผลด้วยประการทั้งปวงที่การไฮแจ็ค Super Bowl มาเป็นจุดดึงความสนใจของคนดูทางบ้านโดยไม่ต้องเสียเงินให้ผู้จัดการแข่งขัน Super Bowl แม้แต่เซนต์เดียว จะเกิดขึ้นโดยบริษัทเบียร์คู่แข่ง Anheuser-Busch InBev คือ Heineken ซึ่งปรับกลยุทธ์การโฆษณาเบียร์ Newcastle Brown Ale โดยมุ่งโฆษณาลักไก่เกาะกระแส Super Bowl สร้างสีสันให้วงการโฆษณาโลกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะ Anheuser-Busch InBev เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ชื่อ Super Bowl และสิทธิ์ขาดในการออกอากาศหนังโฆษณาในหมวดเบียร์แต่เพียงผู้เดียว ทำให้เบียร์เจ้าอื่นหมดโอกาสเสนอหน้าในช่วงเวลานี้ ปี 2014 ที่ผ่านมา Newcastle... Read The Rest →

a day: number 173: Rewind 2014

Global Review: Advertising ตอน Rewind 2014 By Weerachon Weeraworawit, Published: 9 January 2015 เป็นธรรมเนียมไปแล้วนะครับ ส่งท้ายปีเก่าทีไร ทาง YouTube จะต้องทำวิดีโอรวมเรื่องราวฮิตในรอบปีที่ผ่านมา โดยหยิบคลิปดังๆ มายำเป็นเวอร์ชั่นสนุกๆ ในชื่อ Rewind และทุกปีก็จะมีคลิปงานโฆษณาเด่นๆ ของโลกติดเข้าไปอยู่ในนั้น อย่างในปี 2011 มีหนังโฆษณารถ Volkswagen เรื่อง The Force ที่เด็กน้อยตัวเอกของเรื่องคิดว่าตนเองมีพลังวิเศษด้านมืดเหมือน Darth Vader ไล่สะกดจิตใจผู้ชมทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์จนกวาดรางวัลโฆษณาใหญ่ๆ และยอดวิวใน YouTube ไปแบบล้นหลาม ในปี 2012 ก็มีงาน Red Bull Stratos ที่การกระโดดดิ่งพสุธาลงมาจากสุดขอบโลกของนาย Felix Baumgartner กลายเป็นที่กล่าวขานกันทั้งโลก พร้อมกับ Dumb Ways to Die ของ Metro Trains Melbourne ที่บทเพลงน่ารักน่าชังพร้อมการออกแบบคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนอันน่าจดจำ ทำให้งานโฆษณารณรงค์เรื่องความปลอดภัยในการโดยสารรถไฟชิ้นนี้ฮิตสุดๆ ได้เข้าไปอยู่ในคลิป YouTube Rewind อย่างไม่ยากเย็น รวมถึงแคมเปญ Dove Real Beauty Sketches ในปี 2013 ซึ่งใน 3 ปีหลังนี้ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ารูปแบบในการนำเสนอคลิปรวมฮิตประจำปีเปลี่ยนไป ลองเข้าไปดูใน YouTube.com/Rewind นะครับ แทนที่จะนำคลิปดังๆ มาตัดต่อตรงๆ แล้วจัดอันดับความนิยมเหมือนในปี 2011 พวกเขากลับเลือกใช้บรรดาเน็ตไอดอลล้วนๆ มานำเสนอเรื่องราวดังๆ ในลักษณะรีเมค โดยในปี 2014 เปิดตัวคลิปด้วย PewDiePie เจ้าของ... Read The Rest →

« Older Entries Newer Entries »

Back to top